AOMSIN-ELECTRONIC.COM

บทความ

LCD tv ต่างกับ LED tv อย่างไร

24-04-2554 05:40:34น.
 LED TV vs LCD TV แตกต่างกันอย่างไร? อะไรดีกว่ากัน?

คำถามที่ถามกันบ่อยๆในวงการทีวีและเครื่องเสียงในปัจจุบันนี้ “พี่ครับ LED TV กับ LCD TV ต่างกันอย่างไรครับ” จากผลสำรวจของเราเองมันคือหนึ่งในเป็นคำถามที่พนักงานขายทีวีตอนนี้แทบโดนกันหมดทุกคนครับ  ซึ่งโดนคำถามนี้กันถ้วนหน้า เอาเป็นว่าผมขออธิบายรายละเอียดของ LED TV VS LCD TV ก่อนละกันครับ



LCD TV คืออะไร???
LCD TV ย่อมากจาก Liquid Crystal Display ซึ่งใช้หลอดไฟ CCFL หรือ Cold Cathode Fluorescent Lamp ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดผอมคล้ายๆหลอดกาแฟ เรียงในแนวนอนยาวลงมาเป็นตัวกำเนิดแสง และมี Liquid Crystal เป็นผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สี ทั้งสีแดง น้ำเงิน เขียว คอยบิดตัวเป็นองศาเพื่อให้แสงจากหลอด CCFL Backlight ส่องลอดผ่านออกมาเป็นสีสันต่างๆ



 



LED TV คืออะไร ???
LED TV ย่อมาจาก Light Emitting Diode เป็นหลอดไฟขนาด “จิ๋วแต่แจ๋ว” ซึ่งใช้หลอด LED เป็นตัวกำเนิดแสง และมี Liquid Crystal เป็นผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สีทั้งสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว คอยบิดตัวเป็นองศาเพื่อให้แสงจากหลอด LED ส่องลอดผ่านออกมาเป็นสีสีนต่างๆ



สรุป
สรุปอย่างได้ใจความได้ว่า LED TV ก็คือ LCD TV ที่เปลี่ยนจากหลอด CCFL เป็นหลอด LED ในการกำเนิดแสงนั่นเอง โดยยังใช้ Liquid Crystral ผลึกแข็งกึ่งเหลว 3 สีในการสร้างสีในแต่ละพิหเซล ดังนั้นตามหลักการแล้วมันก็คือ LED LCD TV นั่นเอง เพียงแต่สลับจากการใช้หลอด CCFL ให้เป็นหลอด LED เพื่อใช้กำเนิดแสง อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือ LED เป็นเทคโนโลยีที่มีให้เห็นกันบ่อยในจอโน็ตบุ๊คที่บางๆครับ

แล้ว LED TV กับ LCD TV อะไรดีกว่ากันหละ???
ขอตอบแบบฟันธงเลยนะครับ ในฐานะคลุกคลีกับจอภาพอยู่แทบทุกวันว่า LED TV ดีกว่า LCD TV ในหลายแง่ครับ เรามาดูตารางเปรียบเทียบกันในเชิงคุณภาพผลลัพธ์เลยนะครับ โดยเป็นการตัดสินให้คะแนนโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND


แล้ว LED TV กับ LCD TV อะไรดีกว่ากันหละ???
ขอตอบแบบฟันธงเลยนะครับ ในฐานะคลุกคลีกับจอภาพอยู่แทบทุกวันว่า LED TV ดีกว่า LCD TV ในหลายแง่ครับ เรามาดูตารางเปรียบเทียบกันในเชิงคุณภาพผลลัพธ์เลยนะครับ โดยเป็นการตัดสินให้คะแนนโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND
 

LCD TV VS LED TV

ชนิดของ Backlight

CCFL

LED

ชื่อของทีวีในตลาด

LCD TV

LED TV

คุณภาพของภาพโดยรวม

7

9

ความสว่าง

8

8

สีสัน

7

9

ระดับสีดำ

7

9

อัตราการกินไฟ

7

10

ความบาง

7

9

ระดับราคา

9

6

ความคุ้มค่า

เครื่องถูกกว่า ค่าไฟแพงกว่า

เครื่องแพงกว่า ค่าไฟถูกกว่า

ตัวอย่างยี่ห้อและรุ่น

LG: LD650

LG: LE8500

Samsung: C650

Samsung: C8000

Sony: EX500

Sony: X & ZX Series


ด้วยความที่เป็นหลอดไฟ “จิ๋วแต่แจ๋ว” โดยความสามารถของเจ้า LED นั้นสามารถให้ “แสงสว่างได้ดีกว่าโดยที่ใช้ไฟน้อยกว่า” ทำให้ LED เป็นแหล่งกำเนิดไฟที่มีประสิทธิภาพมากกว่าหลอด CCFL ทันทีครับ และที่สำคัญด้วยขนาดหลอดที่เล็กกว่า ทำให้ LED TV มีความบางกว่า LCD TV ทั่วๆไปที่ใช้หลอด CCFL Backlight แต่อย่างไรก็ตาม LED TV นั้นก็ยังมีระดับราคาที่สูงอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า “คุ้มค่าหรือเปล่า” กับการลงทุนในช่วงนี้  โดยผมบอกได้เพียงสั้นๆว่า ค่าตัวของ LED TV ค่อนข้างแพงกว่า LCD TV อยู่พอสมควร แต่ก็มี LED TV ก็มีอัตราการกินไฟน้อยกว่า LCD TV อยู่ประมาณ 40% -50% เลยทีเดียวเชียวครับ ดังนั้นเรื่องความคุ้มค่าก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้วหละว่าจะเลือกตัวไหนครับ



LED TV มีทั้งหมดกี่แบบ ???
อันนี้หลายๆท่านอาจะจะยังสงสัยว่า LED TV มันมีหลายแบบด้วยเหรอ คำตอบแบบฟันธงนะครับว่ามีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เรามาดูกันเลยดีกว่า


1. EDGE LED : วางหลอด LED ไว้ตรงขอบของทีวี
EDGE ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ขอบ” ครับ โดยหลอด LED จะถูกวางไว้ตามขอบบน ล่าง ซ้าย ขวา ของทีวีและคอยยิงแสงเข้ามาตรงกลางจอทีวี สำหรับข้อดีก็มีตรงที่ “ความบาง” ที่บางกว่า LCD TV ทั่วๆไปหลายเท่า เพราะหลอด LED อยู่แค่ด้านข้างครับ ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องการประหยัดไฟครับ อย่างไรก็ตามข้อเสียหลักๆเมื่อเทียบกับ LED แบบ Full LED ก็คือ ไม่สามารถทำ Local Dimming หรือการเปิด/ปิดหลอดไฟเป็นกลุ่มๆได้เนื่องจากหลอดไฟอยู่ที่ขอบนั่นเอง



Edge LED วางหลอดไฟไว้ตาอมขอบด้านบน ล่าง และด้านข้าง


หาก Edge LED แบบดีๆหน่อยเช่น LG LE5500, Samsung C8000, Sony LX900
ก็จะทำ Local Dimming ได้ครับ แต่ไม่ละเอียดเทพแบบ Full LED

สำหรับ EDGE LED TV ได้แก่ Samsung LED TV ทุกรุ่น Sony NX700 NX800 LG LE5500 LE7500 ครับ ซึ่งถ้าเป็นตัวที่ราคาแพงหน่อยก็จะทำ Lcoal Dimming ได้แบบรูปข้างบนด้วย



2. Full LED : หลอด LED เป็นแผงอยู่ด้านหลัง 
สำหรับแบบที่ 2 เราเรียกว่า Full LED (Direct LED) เพราะว่ามีหลอดไฟอย่าด้านหลังทั้งแผงคอยให้กำเนิดแสงนั่นเอง ข้อดีของ Full LED หรือบางค่ายก็เรียก Direct LED ก็คือ ความสามารถในการทำ Local Dimming หรือการเปิด/ปิด หลอด LED เป็นกลุ่มๆ หรือเฉพาะจุดนั้นเองอย่างอิสระ เช่นฉากๆ นึงด้านซ้ายเป็นสีดำ ด้านขวาเป็นสีขาว หลอด LED Backlight บริเวณด้านซ้ายก็จะปิดเพื่อทำให้สีดำบริเวณด้านซ้ายดำสนิท และกลุ่ม LED Backlightด้านขวาจะเปิดเพื่อให้แสงสามารถลอดออกมาเป็นสีขาวครับ ในขณะที่ CCFL และ EDGE LED ไม่สามารถได้ ส่วนข้อเสียคือเรื่องความหนาของตัวเครื่องครับ เนื่องจากต้องใช้หลอดไฟ LED หลายตัวไว้ด้านหลังของตัวจอ ซึ่งทำให้ทีวีมีความหนาประมาณ LCD TV ทั่วๆ ไปอยู่ครับ


หลอดไฟ LED จะอยู่เต็มแผงหลังของจอ

เวลาทำ Local Dimming ก็จะทำเป็นโซนบล็อคสี่เหลี่ยมตารางหมากรุกแบบนี้


ลองนึกภาพไม่ออกให้ดูรูปนี้ว่า Full LED มันทำ Local Dimming ได้ละเอียดกว่าอย่างไร


ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ LG LE8500 ที่เพิ่งรีวิวไป รุ่นนี้ใช้ Full LED Backlight ครับ รวมถึง Philips รุ่น PFL9704 รุ่นนี้ก็ใช้ Full LED Backlight เช่นกัน และรวมถึงรุ่นล่าสุดอย่าง LG LX9500 ตัวนี้เป็น Full LED 3 มิติด้วย แหล่มโคตร !!! 

3. RGB LED : หลอดไฟ LED สีแดง เขียว น้ำเงิน เป็นแผงอยู่ด้านหลัง 
แบบสุดท้ายผมขอยกให้เป็นตัวท็อปของ LED TV ในปัจจุบันนะครับ ซึ่งก็คือ RGB LED TV นั่นเอง โดยหลักการให้กำเนิดแสงก็คล้ายๆ กับ Full LED เพียงแต่ว่าแทนที่จะใช้หลอด LED สีเดียวซึ่งปกติเป็นสีขาวในการกำเนิดแสง เจ้า RGB LED TV ใช้หลอด LED แม่สี 3 สี (แดง R, เขียว G, น้ำเงิน B) ในการให้กำเนิดแสงแทน ซึ่งหลอดไฟ 3 สีนี้แยกการทำงานกันอย่างอิสระ ส่งผลให้การสร้างสีดีขึ้น เพราะแสงต้นขั้วนั้นออกมาเป็นแม่สีตั้งแต่แรก ความถูกต้องและคมชัดของสีจึงมีมากขึ้น ตลอดจนความสามารถในการไล่เฉดสีจนมีมิติของภาพก็ดีขึ้น ตามหลักการแล้ว RGB LED ถือว่าเป็น LED TV ที่ดีที่สุดครับ มีต้นทุนที่สูงกว่า และความสามาถในการทำ Local Dimming หรือการเปิด/ปิดไฟเป็นกลุ่มๆอย่างอิสระเพื่อสีดำที่ดำสนิทและคอนทราสต์ที่มากขึ้นก็มีเช่นเดียวกับ Full LED แบบข้อที่ 2 ครับ ส่วนข้อเสียที่เห็นหลักๆก็คือระดับราคาที่ค่อนข้างสูงมากในตอนนี้





ตัวอย่างทีวีที่ใช้ RGB ก็คือ Sony X450 ขนาด 46” 55” 70” และ Sharp XS1 ขนาด 65” ซึ่งค่าตัวของ Sharp RGB LED TV ก็ 699,990 บาท และ 70X450 ราคาอยู่ที่ 799,990 บาทซึ่งถอยรถ Vios และ Civic ได้อย่างละ 1 คันพอดีเลยหละครับ 


ความแตกต่างระหว่าง CCFL LCD TV และ LED ชนิดต่างๆ
ชื่อเรียกทีวี
LCD TV
LED TV
ชนิดของ Backlight
CCFL
EDGE LEDFull LEDRGB LED
รูปแบบการวางหลอดไฟ 
 

สถิติของเว็บไซต์

เปิดเว็บเมื่อ : 12/04/2550
ปรับปรุงเว็บเมื่อ : 14/02/2567
ผู้ชมทั้งหมด :
สินค้าทั้งหมด : 35